ครั้งโบราณ สมัยแผ่นดินจีนได้เกิดภัยพิบัติ ฟ้าฝนก็แห้งแล้งติดต่อกันนาน กันดารไปทุกหย่อมหญ้า ข้าวยากหมากแพง ไปทั่วทุกหัวระแหง พระเจ้าแผ่นดินจีนจึง มีพระบัญชาให้โหรหลวงตรวจชะตาเมือง ว่ามีหนทางแก้ไขได้หรือไม่ ? โหรหลวงได้ทูลหนทางแก้ไข พอยังมีอยู่ โดยให้ไปจับเจ้าสิงโต ที่ชมภูทวีปมาแห่แหน ไปทั่วทุกมุมเมือง ในสมัยนั้นจึงให้ทหารออกป่าวประกาศ หาผู้มาแก้ไข ภัยพิบัติทั้งปวง ความทุกข์ร้อนทั้งหลาย เมื่อทราบไปถึง เง็กเซียนฮ่องเต้ อยู่บนสวรรค์ จึงส่งซาเซียน (เซียนที่สาม)ลงมาตามจับเจ้าสิงโตตามโหรหลวงบอกในมือถือหญ้าเล่งจือเช่าซึ่งเป็น
ยาอายุวัฒนะกับพัดเจ้าแม่กวนอิม
จากนั้นฟ้าฝนก็ตกถูกต้องตามฤดูกาล ข้าวปลาอาหารกลับคืนอุดมสมบูรณ์เช่นแต่ก่อน ราษฎรก็อยู่เย็นเป็นสุข ปราศจากโรคภัยเบียดเบียนอีกต่อไป เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณงาม
ความดีของเจ้าสิงโต ในการเข้ามาปราบภัยพิบัติของบ้านเมืองครั้งนั้น ฮ่องเต้จึงมีรับสั่ง
ให้ช่างหลวงประดิษฐ์หัวสิงโตขึ้น โดยให้เหล่าทหารนำออกแสดงในงานเทศกาลและ
งานมงคลต่างๆ ตั้งแต่นั้นมาจนปัจจุบัน และเป็นการปัดเป่าความไม่ดี ไม่งาม ทั้งหลาย
ทั้งปวง ให้กลับมีความเป็นมงคลแทน ประวัติของสิงโตทองนั้น ถ้าเชิญไปแสดงที่ไหน
คงหมายถึงความ อุดมสมบูรณ์ พูนสุข
อีกประการหนึ่งมีความเชื่อกันว่า เทพเจ้าผู้รักษาหัวสิงโต หน้าเขียว คิ้วขาว มักมี
อาถรรณ์แรงและดุร้ายมาก ด้วยเหตุนี้ คนจีนจึงมีการแบ่งประเภทของสิงโตออกไป
มากมาย ซึ่งต้นตำหรับเดิมของจีนแท้ๆ มีอยู่เพียง 4 ประเภท เท่านั้น คือ
1. สิงโตหัวเขียว หนวดดำ เรียกว่า ตั่วกง อันหมายถึง เล่าปี่ พี่ใหญ่ในตัวละครเรื่อง สามก๊ก ใช้แทนผู้มีอำนาจ ทนงในศักดิ์ศรี ล้อมรอบด้วยข้าทาสบริวารมากมาย
2. สิงโตหัวสีแดง หนวดดำ เรียกว่า ยี่กง อันหมายถึง กวนอู น้องสองในละครเรื่อง สามก๊ก ใช้แทนสัญญลักษณ์ผู้ซื่อสัตย์ กล้าหาญ นักต่อสู้ และนำโชคลาภ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น